Below are the feature films that we produced. Click on the title to find out more information about each project in our line-up.  

The Songs of Rice

th

The-Song-of-Rice-Still-002

Festival Participation 

 

ภาพยนตร์ไทยกำกับโดย  อุรุพงศ์ รักษาสัตย์
ความยาว 75 นาที
ภาษา ไทย มีคำบรรยายภาษาอังกฤษจัดฉายในระบบดิจิตอล
ผลิตโดย บริษัท เอ็กซ์ตร้า เวอร์จิ้น จำกัด
จัดจำหน่ายโดย Mosquito Films Distribution

 

เรื่องย่อ

ภาพบันทึกมุมมองแห่งวิถีของข้าวที่มีต่อวิถีของผู้คนในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศไทย  โดยการเรียงร้อยของภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้เปรียบประดุจท่วงทำนองของบทเพลงแห่งข้าว ที่ผู้คนแต่ละพื้นที่ช่วยกันประสานท่วงทำนองแม้สำเนียงจะแตกต่างกัน  แต่หัวใจของเสียงนั้นเป็นหนึ่งเดียวกัน

ภาคสุดท้ายของ ไตรภาคเรื่องข้าว ต่อจาก เรื่องเล่าจากเมืองเหนือ (Stories from the North) และ สวรรค์บ้านนา (Agrarian Utopia)

 

เพลงของข้าว (The Songs of Rice) – Official Trailer

 

ทีมงาน
Appearance ประหยัด         พรมมา
Director อุรุพงศ์          รักษาสัตย์
Producer พิมพกา          โตวิระ
Story อุรุพงศ์          รักษาสัตย์
  เกรียงศักดิ์      วิทยาอนิวรรตน์
Cinematographer อุรุพงศ์          รักษาสัตย์
Assistant Director เนาวเรศ         ชาวน้ำปาด
Assistant Producer จิรนันท์          เฉลิมสิทธิพงษ์
Office Coordinators เบญจรัตน์        ชูนวน
  หรินทร์          แพทรงไทย
Editor อุรุพงศ์          รักษาสัตย์
Post-production Supervisor ลี              ชาตะเมธีกุล
Sound Re-recording Mixer อัคริศเฉลิม        กัลยาณมิตร
Music by  วุฒิพงศ์          ลี้ตระกูล

 

 

Director’s Statement

คงเป็นเพราะยังมีความรู้สึกเกี่ยวกับเรื่องราวของข้าวหลงเหลืออยู่ หลังจากทำภาพยนตร์ เรื่องเล่าจากเมืองเหนือ และสวรรค์บ้านนา  ผมจึงจำเป็นต้องทำต่อให้หมดความแคลงใจ เหมือนคนทำหนังไตรภาคอื่นๆ คือถ้าไม่ครบสามตอน มันเหมือนกับว่าจะไปทำอย่างอื่นไม่ได้ ต้องมีเรื่องที่สามเพื่อปิดฉาก ส่วนวันข้างหน้าจะหวนคืนมาทำเรื่องราวเกี่ยวกับข้าวอีกหรือไม่นั้น ยังเป็นเรื่องของอนาคตอยู่

เรื่องเล่าจากเมืองเหนือ เป็นสารคดีผสมเรื่องแต่ง แต่แบ่งเรื่องราวข้างในเป็นบทเล็กๆ ที่ค่อนข้างชัดเจน ส่วน สวรรค์บ้านนา เป็นเรื่องแต่ง แต่ใช้รูปแบบการถ่ายทำแบบสารคดี แม้ว่ากลวิธีการพัฒนาเรื่องจะกลับตาลปัตรกันก็ตามที

สำหรับ เพลงของข้าว ผมตั้งใจที่จะสร้างภาพยนตร์ที่มีลักษณะผ่อนคลายลงไป และเปิดเผยมากขึ้นในแง่ของการทำงานโดยใช้รูปแบบของสารคดีแบบ non-preconception  ที่เป็นการบันทึกความจริงที่เผชิญกับเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา สำหรับผม เป็นการทำให้สารคดีหายใจได้ด้วยตัวของมันเอง ราวกับว่าเราไม่ได้แต่งมันขึ้นมา ทว่า เราแค่บันทึกชีวิตที่มีอยู่ของมันมากกว่า

การทำงานศิลปะชิ้นหนึ่ง เช่น การวาดภาพดอกไม้ด้วยสีน้ำ อะไรสำคัญกว่ากันระหว่าง ภาพดอกไม้ที่วาดเสร็จแล้วบนกระดาษ หรือห้วงขณะที่ศิลปินกำลังจุ่มพู่กันลงในถาดสีและป้ายบนประดาษ จนปรากฏภาพดอกไม้บนนั้น ภาพดอกไม้นั้นอาจจะสวยต้องตาต้องใจคนดู แต่โมงยามของการวาดนั้นก็สำคัญกับศิลปินเช่นกัน แล้วการสร้างภาพยนตร์หล่ะ เราหวังผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นภาพยนตร์แล้ว หรือว่าเราทำเพราะมันเป็นชีวิตของเรา เพื่อที่เราจะได้สัมผัสกับห้วงขณะของการติดต่อกับผู้คน กับแสงที่ตกกระทบกับเลนส์และมาสู่ดวงตาเราในที่สุด กับชีวิตบนโลกที่เคลื่อนตัวอยู่ตรงหน้าเรา และความน่าจะเป็นอันหลากหลายของชีวิต ของจักรวาลที่อาจจะเกิดตรงหน้า ณ วินาทีนั้น เราคงไม่หวังสิ่งใดมากไปกว่านี้อีกแล้ว

จริงอยู่ที่เราต้องมีกรอบในการทำงาน เราวางกรอบให้มัน แต่กรอบนั้นอย่างน้อยควรจะมีช่องเล็กๆบ้างเพื่อระบายอากาศ ให้มันสัมผัสกับอากาศภายนอก ให้มันหายใจเอาอากาศเดียวกันกับผู้คนข้างนอก ศิลปะนั้นจึงจะสื่อสารกับผู้คนข้างนอก ผู้คนร่วมโลกได้รู้เรื่อง ถ้าไม่อย่างนั้นแล้ว กรอบนั้นจะเป็นกรงเหล็กที่กักขังศิลปินไว้กับโลกของตัวเองเสียเอง โดยตัดขาดกับความจริงข้างนอก

 

 

en


The-Song-of-Rice-Still-002

Festival Participation 

 

Duration 75 min
Format DCP, color
Language Thai with English Subtitles
Production Extra Virgin Co, Ltd
International Sales Mosquito Films Distribution

 

Synopsis

This is a visual record of rice culture and its influences on the people in different parts of Thailand. The lyrical structure of this documentary film reflects the melodies in the songs of rice, crafted and composed by the diverse harmonies of the people who may sing in different voices but who share the same heart.

This is the final movie in the rice trilogy that began with STORIES FROM THE NORTH and AGRARIAN UTOPIA.

 

เพลงของข้าว (The Songs of Rice) – Official Trailer

 

Cast & Crew
Appearance Prayad           Promma
Director Uruphong      Raksasad
Producer Pimpaka        Towira
Story Uruphong      Raksasad
  Kriangsak      Wittaya-aniwat
Cinematographer Uruphong      Raksasad
Assistant Director Naowaret       Chaonampad
Assistant Producer Jiranun          Chalermsitthipong
Office Coordinators Benjarat         Choonuan
  Harin              Paesongthai
Editor Uruphong      Raksasad
Post-production Supervisor Lee                Chatametikool
Sound Re-recording Mixer Akritchalerm   Kalayanamitr
Music by  Wuttipong      Leetrakul

 

Director’s Statement

The feeling lingers, and my thoughts on rice remain vivid. Even after I’ve told the stories of rice and rice people in the movies, STORIES FROM THE NORTH and AGRARIAN  UTOPIA, I feel the urge to keep going, to get back to the rice paddies, and to dispel the shreds of anxiety that cling inside. Any filmmaker who’s set out to do a trilogy would never find peace of mind unless he finishes all the three films, otherwise it’s impossible for him to move on to another project. The third film must be completed so the curtain can be drawn. Whether I will return to visit the story of rice again in the future remains to be seen.

In STORIES FROM THE NORTH, I merged documentary film with fiction and unfold the stories in several small yet distinguishable parts. AGRARIAN UTOPIA, meanwhile, is fiction that relies on the documentary format, even though the process and the development of the idea were sometimes turned upside down.

In THE SONGS OF RICE, my intention is to loosen the strict frame of thought in documentary filmmaking. I want to reveal more of the process by following non-preconception style; it is a record of reality and what actually happens before my eyes. To me, this is how a documentary film can breathe. This is how we capture the existence of story, instead of shaping it.

When an artist paints a flower with water color, what is more important: the finished picture of the flower, or the moment of execution when the artist dips his brush in the palette and daubs it on the paper? The final outcome may be the beautiful flower that captivates the viewer, but the process of painting, the ticking of time as the brush makes contact with the paper – that is the special moment for the artist. What about filmmaking? Do we simply look forward to seeing our finished movies, or do we make movies because it’s our lives, because we look forward to that moment when we make contact with the light that falls on the lens and reflects in our eyes? We look forward to make contact with people, with the movement of life before us, with the infinite probability of the universe. We look forward to feeling that magical second – that’s all we want when we make film.

True, we need a frame in our work. But that frame should have an opening, a gap, a hole that works as ventilation which allows the work to breathe the same air as the people outside do. That’s how art communicate with the people. Otherwise, that frame will become metal bars that lock the artist inside his own world, sadly disconnected from the reality out there.